ทำอย่างไรให้ร้านอาหารอยู่รอด เติบโตร่วมทุนกับบริษัทยักษ์ใหญ่? เปิดคัมภีร์ลับ ฉบับ “อิ่มทรัพย์ โกลบอล คูซีน”

26 พ.ย. 2564
เมื่อเริ่มต้นบุกเบิกกิจการอาหาร หลายๆ ท่านน่าจะมีความฝันว่าอยากประสบความสำเร็จ เจ้าของกิจการแต่ละคนและแต่ละแบรนด์เองก็ย่อมจะมีหนทางไปถึงจุดนั้นที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกกรณีศึกษาของบริษัทที่เติบโตและประสบความสำเร็จก็ล้วนมีเรื่องราวอันน่าสนใจให้เราได้เรียนรู้ เพื่อนำไปปรับใช้และสร้างหนทางสู่เส้นชัยของเราได้เอง 

และในวันนี้ MHA ก็ได้รับเกียรติจาก ‘คุณบอนด์ - ธีรพัฒน์ เลิศสิริประภา’ ผู้บริหาร บริษัท อิ่มทรัพย์ โกลบอล คูซีน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ โคเอ็น พรีเมี่ยม บุฟเฟ่ต์ซูชิขวัญใจมหาชน ที่หลายคนรู้จักกันดี รวมถึงอีกหลายๆ แบรนด์ในเครืออย่าง โอโนะ ซูชิ, ยุ้งข้าวหอม, หมูตั่วเฮีย และต้าคูซีน 

ซึ่งเมื่อเร็วๆ มีข่าวน่ายินดีออกมาว่ายักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ ‘OR’ ได้ตกลงมาร่วมลงทุนกับอิ่มทรัพย์ฯ ในวงเงินสูงถึง 192 ล้านบาท แต่ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ เส้นทางสู่ความสำเร็จที่ผ่านมาของอิ่มทรัพย์นั้นเป็นอย่างไร? ทำไมยักษ์ใหญ่ระดับประเทศอย่าง OR จึงสนใจจะร่วมลงทุน? และหลังจากที่เพิ่งติดปีกพร้อมมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งเช่นนี้แล้ว ‘อิ่มทรัพย์’ จะมีแผนในการขยายความสำเร็จอย่างไรให้เราได้เห็นกันอีก 

จากนักชิมตัวยงผู้เปี่ยมไปด้วยความหลงใหลในอาหารสู่เจ้าของกิจการ

“ผมเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารจากความหลงใหลในการรับประทาน โดยจุดเริ่มต้นคือร้านยุ้งข้าวหอม ซึ่งเราไปรับประทานร้าน ‘ข้าวหอม’ บนเกาะสมุยแล้วติดใจ ก็เลยไปเรียนรู้สูตรต้นตำรับแล้วนำกลับมาเปิดร้าน ‘ร้านยุ้งข้าวหอม’ ให้คนกรุงเทพฯ ได้ชิมกัน จนร้านนี้ได้รับรางวัลจากมิชลินไกด์ติดต่อกันหลายปีซ้อน แล้วด้วยความที่ชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่นมากจึงได้เปิด Kouen Sushi Bar ที่ I’m Park Chula เพราะอยากจะให้ทุกคนได้รับประทานอาหารญี่ปุ่นคุณภาพในราคาที่เหมาะสม 

ซึ่งในช่วงแรกๆ นั้นด้วยความที่เราเองไม่ได้มีประสบการณ์ในการทำร้านอาหารมาก่อนก็เลยจึงมีเรื่องที่ให้เรียนรู้ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน อย่างในช่วงแรกเนี่ยโคเอ็นเราให้บริการเฉพาะเมนูอะลาคาร์ตก่อนซึ่งผลตอบรับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนเมื่อเรามาวิเคราะห์ดูแล้วเห็นว่าด้วยโลเคชั่นที่เราเปิดนั้นเป็นย่านนักศึกษาก็เลยปรับมาให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มนี้ได้มากกว่า”
Kouen Sushi Bar แบรนด์ร้านซูชิบุฟเฟ่ต์ขวัญในมหาชน
เมื่อแบรนด์โคเอ็นเริ่มมาถูกทางจึงได้รับผลตอบรับที่ดีมากจนสามารถขยายสาขาอื่นๆ ตามมาอีกหลายแห่ง ทั้งยังตามมาด้วยแบรนด์อื่นๆ ในเครืออย่าง ‘หมูตั่วเฮีย’ ซึ่งมีคอนเซ็ปต์คือครบเครื่องเรื่องสตรีทฟู้ดโดยเน้นที่สารพัดเมนูหมูที่รับประทานง่าย ส่วน ‘Ono Sushi’ ก็เป็นอีกแบรนด์อาหารญี่ปุ่นซึ่งเน้นซูชิ และข้าวหน้าด้งในราคาที่เข้าถึงง่าย จนมาถึง ‘Dà Cuisine’ ซึ่งเน้นที่อาหารจีนสูตรกวางตุ้ง

 เคล็ดลับความสำเร็จฉบับ ‘อิ่มทรัพย์’

เมื่อพูดถึงความสำเร็จโดยรวมแล้ว คุณบอนด์เปิดเผยว่าในช่วงปีที่ผ่านมานั้นด้วยวิกฤตโควิดนั้นทำให้ร้านอาหารภายในเครือได้รับผลกระทบให้ต้องปรับตัวอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะแบรนด์ที่เปิดขึ้นมาประจวบเหมาะพอดีกับโควิดอย่างต้าคูซีน ซึ่งเปิดที่อาคารแอทธินี ทาวเวอร์ ถนนวิทยุ เดิมทีนั้นมองว่าเปิดไว้สำหรับกลุ่มลูกค้า High-spending รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อเกิดวิฤตโควิดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา และกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังใช้จ่ายชาวไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเองก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะออกจากบ้าน ในอนาคตจึงมีโครงการที่จะปรับคอนเซ็ปต์ของร้านให้เป็น Hot Pot สไตล์ Cantonese ซึ่งจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น 

แต่สำหรับแบรนด์ที่น่าพูดถึงที่สุดในแง่ของความสำเร็จนั้นย่อมหนีไม่พ้น ‘Kouen Sushi Bar’ ซึ่งนอกจากจุดเด่นที่สุดซึ่งทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันได้บ่อยๆ นั้นอยู่ที่เรื่องของงบประมาณ เนื่องจากบุฟเฟ่ต์ของโคเอ็นนั้นมีหลากหลายราคาให้เลือกตั้งแต่ 5 ร้อยกว่าบาท 8 ร้อยกว่าบาท 1 พันกว่าบาท ไปจนถึง 1 พันห้าร้อยกว่าบาท ซึ่งนับเป็นข้อดีที่ทำให้ลูกค้าสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ตามต้องการ ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมที่จะควบคุมคุณภาพของอาหารให้เสมอต้นเสมอปลายให้รสชาติเหมือนเดิมทุกครั้งที่มารับประทาน รวมถึงคุณภาพของการให้บริการ และอื่นๆ ที่ต้องให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียด 

และเมื่อเกิดวิกฤตก็ยังเปิดแบรนด์ลูกอีกไลน์อย่าง ONO Sushi ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่ามาแก้สถานการณ์ โดยเริ่มต้นที่เพียงเมนูละ 10 บาท ทั้งยังเหมาะสำหรับ Delivery มากกว่าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในช่วงสถานการณ์ยากลำบากของวิกฤตโควิดให้ยังมีอาหารญี่ปุ่นคุณภาพรับประทานในราคาที่เอื้อมถึง

141058268_108628414539033_8632243151920210564_n.jpg 128.3 KB

“ผมคิดว่าหัวใจหลักของการทำธุรกิจคือ ถ้ามันเกิดจากความรักแล้วเราใส่ใจกับมัน ตั้งใจหาทางแก้ปัญหา ทำมันออกมาให้ดี ผมคิดว่าโอกาสเติบโตก็ไม่ยากครับ นอกจากนี้ธุรกิจอาหารเองก็เหมือนกับแฟชั่น ซึ่งต้องมีการอัพเดทปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา อะไรที่เหมือนเดิมซ้ำๆ ก็ย่อมจะตกยุค ไอเดียใหม่ๆ จึงมีความสำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจนี้นี่เป็นสาเหตุที่ผมให้ความสำคัญกับ Research & Development อย่างมากเพื่อที่จะนำฟีดแบ็กจากลูกค้ามาพัฒนาเมนูใหม่ๆ รวมถึงการบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และกลับมารับประทานที่ร้านเราซ้ำได้ตลอด”

Key Success ของธุรกิจร้านอาหาร ทำอย่างไรจึงประสบความสำเร็จและอยู่รอด

·       รสชาติอาหารจะต้องได้มาตรฐานเสมอต้นเสมอปลาย วันนี้เสิร์ฟรสชาติอย่างไร ทุกๆ วันก็ต้องรสชาติแบบนั้น
·       คุณภาพของสินค้าหรือวัตถุดิบคือหัวใจสำคัญ หลายๆ คนที่ไม่ประสบผลสำเร็จส่วนมากอาจจะเป็นไปได้ว่ามองเรื่องของผลกำไรมาก่อน เช่นๆ เปลี่ยนวัตถุดิบ หรือเปลี่ยนคุณภาพเล็กน้อยเพื่อให้ผลกำไรที่มากขึ้น แต่ลืมคิดไปว่าที่ลูกค้าตัดสินใจซื้ออาหารของเราเป็นเพราะรสชาติและคุณภาพ
·       เมื่อต้องเลือกกันระหว่างการปรับราคาตามวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น หรือจะด้อยคุณภาพอาหารลงก็เลือกที่จะสื่อสารตรงๆ กับลูกค้าถึงความจำเป็นที่จะต้องขอปรับราคาอาหารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เป็นวิธีที่จะแสดงออกถึงความจริงใจกับลูกค้า ซึ่งเมื่อลูกค้ารับฟังเห็นว่าคุณภาพของอาหารกับราคานั้นสมเหตุสมผลก็จะเข้าใจและยอมรับได้
  
·       เรื่องของการบริการเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ นอกจากรสชาติอาหารอร่อยแล้ว คุณภาพของการให้บริการก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าร้านไหนทั้งอาหารอร่อยและบริการดีลูกค้าย่อมจะกลับไปบ่อยๆ ในขณะที่บางร้านอาหารอร่อยแต่บริการไม่ดี นานๆ ลูกค้าถึงจะกลับไปสักที หรือไม่ก็ไม่กลับไปเลย
·       ทำการตลาดกับพันธมิตรบัตรเครดิตที่หลากหลาย รวมถึงทำแคมเปญพิเศษในโอกาสต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงโอกาสพิเศษและความคุ้มค่า รวมถึงเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า
·       วิกฤตโควิดสอนให้รู้ว่าเงินทุนสำรองในการทำธุรกิจต้องมีไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และต้องรู้จักปรับตัวตามสถานการณ์
·       เตรียมพร้อมที่จะต้องรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ปรับตัวอย่างรวดเร็ว 
·       ทำการตลาดโซเชียลทุกช่องทางทั้ง  FB IG Twitter และ Line OA แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการคงคุณภาพของอาหารได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งทำให้ลูกค้าไว้วางใจและได้รับการบอกต่อกันปากต่อปาก แต่หน้าร้านก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เพราะเป็นทั้งภาพลักษณ์ และลูกค้าเองก็ยังต้องการประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ร้านอยู่ 


ธุรกิจติดปีกเมื่อได้ร่วมทุนกับยักษ์ใหญ่

ความรักความความใส่ใจทุ่มเททำธุรกิจที่ผ่านมายิ่งเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นเมื่อยักษ์ใหญ่อย่าง OR  เล็งเห็นถึงศักยภาพจึงมอบหมายให้บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OR เข้ามาร่วมลงทุนกับ ‘อิ่มทรัพย์’ ซึ่งปัจจุบันมีแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจำนวน 5 แบรนด์ ได้แก่ ร้านโคเอ็น พรีเมี่ยม บุฟเฟ่ต์ ร้านยุ้งข้าวหอม ร้านหมูตั่วเฮีย ร้านต้า คูซีน และร้านโอโนะ ซูชิ โดยเข้าลงทุนในสัดส่วน ร้อยละ 25 ที่วงเงินประมาณ 192 ล้านบาท 

แผนการดำเนินการในระยะแรกนี้ จะมุ่งมุ่งเน้นไปที่การขยายสาขาของแบรนด์ ‘โอโนะ ซูชิ’ ซึ่งเป็นร้านซูชิและเมนูเข้าถึงง่ายอย่างข้าวหน้าด้ง (Donburi) เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้บริโภคและกลุ่มผู้เดินทางที่เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น โดยจะเปิดบริการ ร้านโอโนะ ซูชิ ที่สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น สาขาบางนา ขาเข้า เป็นแห่งแรก ในเร็วๆ นี้ ทั้งยังตั้งเป้าขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีแพลนในการขยายกิจการและความสำเร็จบทใหม่ๆ ตามมาอีกแน่ สำหรับประเด็นนี้ คุณธีรพัฒน์ ในฐานะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ ‘อิ่มทรัพย์’ ได้กล่าวว่า
008.jpg 963.87 KB

“สำหรับสาเหตุที่ทาง OR สนใจมาร่วมทุนกับทางอิ่มทรัพย์ผมมองว่าเป็นเพราะหลายๆ อย่างด้วยกันครับ อย่างแรกเลยก็คือทีมของเราที่มีทั้งความพร้อมและประสบการณ์ อย่างที่สองก็คือเรื่องของระบบหลังบ้านซึ่งเราให้ความสำคัญและดำเนินการมาได้ประมาณ 2-3 ปีก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วธุรกิจที่เป็น SME นั้นมักจะไม่ค่อยได้สนใจเรื่องการ implement หลังบ้าน หรือทำระบบ ERP (Enterprise Resource Planning  = การวางแผนบริหารจัดการองค์กรให้สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุดและตรวจสอบได้) กันสักเท่าไหร่ แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้เราเจอกับโควิด และเราได้ตั้งใจปักหมุดเอาไว้อยู่แล้วว่าอยากจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เราก็เลยเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้มาก่อน ทำให้เรามีความพร้อมกว่าเจ้าอื่นๆ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ OR สนใจ และเราสามารถดีลกับเขาจบได้ในเวลาไม่นาน”

ทำอย่างไรให้มีความพร้อมจนยักษ์ใหญ่สนใจมาลงทุน?

·       ทำธุรกิจด้วยความรัก เมื่อทำด้วยความรักก็จะใส่ใจในทุกรายละเอียด เมื่อนั้นความสำเร็จและความเติบโตก็จะตามมาโดยไม่ยาก
·       ให้ความสำคัญและสร้างทีมที่ดี ซึ่งเป็นมืออาชีพ เป็นทีมที่มีพร้อมทั้งฝีมือและประสบการณ์เพื่อให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจ 
·       ระบบหลังบ้านต้องดี มีทั้งมาตรฐาน ประสิทธิภาพ และสามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบบัญชีหรือ ระบบ ERP

“สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตเนี่ยนอกจากการเปิดสาขาที่ปั๊ม PTT แล้ว ผมคิดว่าปัจจุบันนี้ด้วยวิกฤตโควิดทำให้ Behavior หรือพฤติกรรมของคนเราเปลี่ยนไปด้วยนะครับ คนกินแล้วก็รีบลุกและเขาไม่อยากจะนั่งนานๆ และเนื่องจากในอนาคตจะมี EV Charger เข้ามาทำให้คนจะมีการใช้จ่ายกันที่ปั๊มกันค่อนข้างเยอะขึ้น เมื่อ OR มีพื้นที่ ส่วนเรามีไอเดียและ Know How ของการทำร้านอาหาร เมื่อสองอย่างนี้มาบวกกัน 1+1 ก็จะเท่ากับ 10 

นอกจากนี้ยังอาจจะได้เห็นการเชื่อมกันในเรื่องของข้อมูลอย่าง ปตท. เขาเองก็มีสมาชิก Blue Card อยู่หลายล้านคนใช่ไหมครับ นอกจากเติมน้ำมันแล้วคนถือบลูการ์ดอาจจะยังได้ Point สะสมเพิ่มเมื่อมากินซูชิของโคเอ็นหรือของโอโนะซูชิก็เป็นไปได้ นอกจากนี้ในส่วนอื่นๆ เราก็ยังจะมีการปรับแบรนด์ต่างๆ ภายในเครือของเราที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเราก็จะพยายามปรับรูปแบบ และทำกลับมาให้ดีขึ้นอะไรอย่างนี้เป็นต้นครับ แต่เอาเข้าจริงๆ ผมยังไม่ได้คิดว่าเราประสบความสำเร็จแล้วหรอกนะครับ แต่ก็ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญซึ่งผมอยากให้จับตามองความเปลี่ยนแปลงของเราในอนาคตกันให้ดีๆ รับรองว่าจะต้องมีอะไรสนุกๆ ให้เห็นกันอีกแน่ครับ”
สำรวจหัวข้อเพิ่มเติม
KouenJapanese FoodSushiFood BusinessOno SushiKouen Sushi Barโอโนะ ซูชิโคเอ็นอาหารญี่ปุ่นซูชิธุรกิจอาหาร

Keep reading

รับแรงบันดาลใจจากเนื้อหาสำหรับร้านอาหาร

ดูบทความทั้งหมด
คุณสนใจหมวดหมู่ใด